ถ้าพระพุทธเจ้ารู้ทุกอย่างจริง พระไตรปิฎกก็ควรมีวิธีพิสูจน์ Goldbach’s Conjecture


ในหนังสือ  “Demon-haunted World: Science as a Candle in the Dark” ย่อหน้าหนึ่ง Carl Sagan ได้บอกไว้ว่าเวลาที่เจอพวกที่อ้างว่าติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ เขาจะส่งจดหมายตอบไปให้เขาถามวิธีพิสูจน์ Fermat’s Last Theorem หรือ Goldbach’s Conjecture จากมนุษย์ต่างดาวให้หน่อย สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่ฉลาดล้ำหน้าเกินกว่ามนุษย์ขนาดเดินทางข้ามอวกาศมาเยี่ยมเราได้ ย่อมจะต้องสามารถแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของเราได้แน่ (ตอนนั้น Fermat’s Last Theorem ยังพิสูจน์ไม่เสร็จ)

Carl Sagan บอกว่าทุกครั้งที่ส่งจดหมายแบบนี้ไป คนพวกนั้นก็ไม่ตอบกลับเลย

เหตุผลที่ Carl Sagan ยกคำถามคณิตศาสตร์ ก็เพราะคณิตศาสตร์เป็นภาษาสากล เราสามารถ assume ได้ว่า ภูมิปัญญาที่จะมีวิสัยทัศน์ดังอ้างได้จะต้องเข้าใจในรูปแบบของธรรมชาติซึ่งสามารถแสดงออกได้ในรูปแบบทางคณิตศาสตร์(หรืออะไรคล้ายๆ กัน) หากภูมิปัญญานั้นสูงล้ำหน้ากว่ามนุษย์แล้ว ปัญหาคณิตศาสตร์เหล่านี้ก็ต้องเรื่องจิ๊บๆ หรืออย่างน้อยก็ต้องมีหนทางใบ้ไปสู่คำตอบ

เหตุผลที่ยก Fermat’s Last Theorem หรือ Goldbach’s Conjecture ก็เพราะสองอันนี้เป็นทฤษฎีบทที่เรียบง่าย แต่พิสูจน์ได้ยากยิ่ง หากภูมิปัญญานั้นเข้าใจรูปแบบธรรมชาติอย่างใน assumption ย่อหน้าก่อนหน้า เขาจะต้องสังเกตเห็นและเข้าใจรูปแบบที่ปรากฏในทั้งสองทฤษฎีบทนี้แน่ๆ

มุขนี้น่ายืมมาใช้กับศาสนิกชนของบางลัทธิที่ชอบอวดอ้างว่า “ศาสดาของตนเก่งนักเก่งหนา รู้ไปหมดทุกอย่าง” เสียจริง

ตรงไหนของพระไตรปิฎกมีใบ้วิธีพิสูจน์ Goldbach’s Conjecture ไว้บ้างนะ? คนอินเดียก็เป็นหนึ่งในชนชาติที่มีความก้าวหน้าคณิตศาสตร์ของยุคโบราณ ถ้าศาสนาพุทธอธิบายทุกอย่างเจนจบหมดสิ้นดังอ้าง เรื่องแบบนี้ก็น่าจะมีคำใบ้ไว้อยู่นะ

อุ๊ย! ลืม เผลอหลุดปากว่าเป็นศาสนาพุทธไปได้ไงเนี่ย…. ฮุฮิๆๆ

ผมคิดว่าคำอ้างเพ้อเจ้อกลวงๆ ประเภทนี้เจอการล้อเลียนแบบนี้ก็สมควรแล้ว อย่างที่ Thomas Jefferson กล่าวไว้

‎”Ridicule is the only weapon which can be used against unintelligible propositions. Ideas must be distinct before reason can act upon them”,

~ Thomas Jefferson, letter to Francis Adrian Van der Kemp, 30 July, 1816

(แต่ Carl Sagan นี่ก็ไม่เชิงว่าเขาจะล้อเลียนคนที่อ้างว่าถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปนะ ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างเห็นใจซะด้วย แต่เขาไม่เชื่อจนกว่าจะมีข้อพิสูจน์)

18 Responses to ถ้าพระพุทธเจ้ารู้ทุกอย่างจริง พระไตรปิฎกก็ควรมีวิธีพิสูจน์ Goldbach’s Conjecture

  1. คนผ่านทาง says:

    ความรู้เหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์ทางใจได้ครับ ถึงพระพุทธองค์รู้ ท่านก็ไม่ได้สอน ท่านเน้นทางพ้นทุกข์ครับ

    • คนผ่านทางคนที่2 says:

      ผมคิดว่าคุณเป็นคนที่ฉลาดและหลักแหลม เปี่ยมล้นไปด้วยภูมิปัญญา วิชาการเยี่ยม แต่คุณกำลังดูแคลนและเหยียดหยามศาสนาประจำชาติ(ชาติไทย)ของคุณเอง แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนไทยผมขอโทษ เพราะศาสนาพุทธคือศาสนาประจำชาติไทย และเป็นศาสนาของผมพร้อมกับผู้คนอีกหลายล้านคน พวกเราเป็นชนเผ่าโง่เง่า คุณอย่าได้อาศัยแผ่นดินของพวกเราเลย เพราะคุณฉลาดมากเกินกว่าที่จะคู่ควรกับแผ่นดินของพวกเรา

  2. nidsupa says:

    สวัสดีค่ะ ตามมาจาก JuSci นะคะ (*v*)
    เขิลจังเลย…

    เอาเป็นว่า add twitter ไปแล้วนะคะ ถ้าได้ FB account ด้วยจะยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ
    จะได้เกรียนใส่ได้สะดวกหน่อย อิอิส์

  3. คนผ่านทางคนที่4 says:

    ต้องลองพิสูจน์ดูครับ ว่าจริงไหม
    “อย่าเชื่อว่า สิ่งนี้แหละจริง สิ่งอื่นเปล่า เพียงเท่านี้ บุคคลชื่อว่า ตามรักษาสัจจะ”
    พระไตรปิฎก เป็นความจำของพระภิกษุตั้งแต่ต้นยุคสมัยพุทธกาล ที่ช่วยกันจำและถ่าย
    ทอดต่อๆกันมาเพื่อ สืบทอดสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่าน เผยแผ่พระศาสนาครับ

  4. ผ่านมาเหมือนกัน says:

    อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังไม่เห็น แต่ต้องปฏิบัติให้ได้ก่อนพระไตรปิฏกเป็นแนวทางให้ปฏิบัีติได้ ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ปราศจากความจริงได้ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์ได้คิดค้นขึ้นทุกวันก็เป็นสิ่งยืนยันไปทีละขั้นๆของมันดังสมองที่ได้คิดค้นขึ้นตามหลักความจริง พระพุทธเจ้าได้นำคำสอนที่ได้ชำระจิตให้สอาดผ่องใสแล้ว มีผู้จดจำและสืบทอดมาถึงรุ่นปัจจุบันก็คงเป็นหลักฐานชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ทุกวันนี้ผมในฐานะเป็นพุทธศาสนิกชน ผมยังทำตามพระพุทธองค์สอนถึงแม้่ไม่ถึงส่วนหนึ่งด้วยซ้ำ แต่ทุกวันนี้่ผมเรียนหนังสือมาถึงขึ้นที่พอรู้ว่าอย่างไหนผิดถูกมีอะไรก็ทำไปมีงานมีหน้าที่ก็ต้องคำนึงหลักธรรมพื้นฐาน เช่นพรหมวิหาร ฯ และคำนึงถึงกาลามสูตรที่สอนไว้ก็ทำไป จึงมีแนวคิดในทางพัฒนามากกว่าแนวคิดที่อ้อนวอนในสิ่งที่ไร้สาระ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้ทำให้จิตได้พัฒนา กลับทำให้คนที่มีปัญญามาก ฉลาดมากแต่ไม่มีคุณธรรมมีจิตที่มัวหมองได้ทุกขณะจิต
    เสมือนเถียงกันว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันนั่นแหละ ต้องพิสูจน์ตรงนี้ให้ได้ก่อนซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ

  5. ผ่านมาแซว says:

    ดิชชั่นนารีเขาระบุความหมายของศัพท์ทุกคำในโลกไว้ไหม

  6. Sukhum says:

    ตรรกะแย่มาก ถ้ารู้ไม่จริงก็ไม่สมควรแสดงความเห็นในเรื่องที่ตนเองไม่มีความรู้นะครับ ถามหน่อยว่า Problem Statement ของพุทธศาสนาคืออะไร? มุ่งแก้ปัญหาอะไร? ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ว่ามันอยู่ในขอบเขตของพุทธศาสนาหรือไม่ ถ้าพิสูจน์ Goldbach’s Conjecture ได้แล้วจะทำให้มนุษย์แก้ปัญหาความทุกข์ได้หรือไม่? พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้แล้วว่าท่านไม่ได้สอนทุกเรื่องที่รู้ (ลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ)

    ลองดูจุดเน้นที่แตกต่างกันของพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ครับ คนละศาสตร์ คนละวัตถุประสงค์กัน เอามา compare กันไม่ได้
    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1

  7. Sukhum says:

    ลองอ่านบทความนี้ดูนะครับ แล้วจะเข้าใจว่าพุทธศาสนาคืออะไร

    Click to access buddhism_as_the_foundation_of_science.pdf

  8. Sukhum says:

    อีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความไม่รู้ (แล้วอ้างพุทธศาสนา) ของคุณ

    คุณบอกว่า “สิ่งเลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นเรื่องของกรรมเก่า” เป็นคำสอนของพุทธศาสนา ฟังแล้วตลกดี พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนแบบนี้ครับ แนวคิดที่ว่าสุขทุกข์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากกรรมเก่า (past-action determinism) นั้นเป็นคำสอนของเดียรถีย์นอกพุทธศาสนาที่ชื่อว่านิครนถ์นาฏบุตร เรียกว่า ลัทธิปุพเพกตเหตุวาท ซึ่งพระพุทธเจ้ากล่าวว่าเป็นความเห็นผิด (มิจฉาทิฎฐิ) ประการหนึ่งด้วยซ้ำไปครับ

    http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/buddhadhamma_revised_and_expanded_edition.pdf (ดูหน้า 286-288)

    เวลาทำวิจัย เขายังต้องทำ literature review ก่อน เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ใครศึกษามาว่าอย่างไรบ้าง แต่คุณสามารถแสดงความเห็นต่อพุทธศาสนาได้ทั้งๆ ที่ตัวเองแทบไม่มีความรู้หรือศึกษาในเรื่องนี้เลย (รู้น้อยมาก รู้ไม่จริง และไม่รู้ว่าตนเองไม่รู้) นี่หรือครับกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ของคนที่เป็นนักวิทยาศาสตร์?

  9. aood says:

    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ หมายความว่า พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งที่วิญญูชนหรือผู้รู้แจ้งหรือผู้บรรลุผลด้วยการประพฤติปฏิบัติตามเท่านั้นจึงจะรู้ประจักษ์โดยเฉพาะตนคนเดียว คนอื่นที่ยังไม่รู้แจ้งยังไม่ได้บรรลุจะพลอยตามรู้ตามเห็นด้วยหาได้ไม่…..
    ย้ำด้วยว่าวิญญูชนหรือผู้รู้แจ้งเท่านั้น

  10. ใช้เหตุผลเหนืออคติ says:

    พระไตรปิฎกเป็นหลักคำสอน เป็นแนวทางในการใช้ชีวิต เหมือนกับไบเบิ้ลที่ก็เป็นคัมภีร์แนะนำแนวทางทางการใช้ชีวิตครับ ไม่ใช่ Mathematica,Matlab,GNU Octave ที่ใช้พิสูจน์ปัญหาทางด้านคณิตศาสตร์ คุณเมาหรือเปล่าครับ ถ้าคุณต้องปกครองลูกน้องในการทำงานคุณจะใช้พรหมวิหาร หรือจะแก้สมการเพื่อปกครองลูกน้อง ศาสนาใดๆไม่ผิด ผิดก็ผิดที่คน ถ้าไม่เชื่อก็อย่าล้อเลียน ศาสนาไปทำอะไรให้คุณเหรอครับ อย่าล้อเลียนความเชื่อคนอื่นแบบเอาสีข้างถูซิครับ ถ้าไม่เชื่อก็เมินไป ไม่มีใครมาว่าคุณหรอกครับ หรือว่าคุณต้องการพิสูจน์ภูมิความรู้ว่าเหนือกว่าคนอื่นกันแน่ครับ

  11. ใช้เหตุผลเหนืออคติ says:

    เป็นเด็กทุนซะเปล่ามีความคิดแค่นี้เหรอครับ
    ในฐานะเด็กMU รุ่นน้อง เสียใจจริงๆที่มีรุ่นพี่แบบนี้

  12. bin says:

    ….พระไตรปิฏก … ไม่มีความจำเป็น ต้องใส่เรื่อง ที่มนุษย์อยากรู้ โลก
    แต่ ถ้า เรื่อง เกี่ยวกับ ของเราเอง คือ เรื่องจิตใจ ความทุกข์ หรือความไม่สบายใจ
    รับรอง บอกหมด ……จะเห็นว่า ทางพุทธ แยก ชัดเจน โลก กับ ธรรม

    …เมื่ออยากได้ ก็ ทางโลก …
    …เมื่ออยากหยุด ก็ ทางธรรม ….
    ..

  13. พอล says:

    คุณ..จะเขียนอะไร ศึกษาให้ดีๆก่อน หากรู้ไม่จริง มันก็คือความว่างเปล่าของตัวคุณเอง…ถ้าคุณไม่เข้าใจอะไรคือ action และ อะไรคือผล re-action ไม่ว่าคุณจะเรียนอะไรมา มันคือ…ความว่างเปล่า..?โดยเฉพาะ สมองของคุณ….

  14. minecra says:

    ….พระไตรปิฏก … ไม่มีความจำเป็น ต้องใส่เรื่อง ที่มนุษย์อยากรู้ โลก
    แต่ ถ้า เรื่อง เกี่ยวกับ ของเราเอง คือ เรื่องจิตใจ ความทุกข์ หรือความไม่สบายใจ
    รับรอง บอกหมด ……จะเห็นว่า ทางพุทธ แยก ชัดเจน โลก กับ ธรรม

    …เมื่ออยากได้ ก็ ทางโลก …
    …เมื่ออยากหยุด ก็ ทางธรรม ….

  15. minecraฟฟฟ says:

    คุณ..จะเขียนอะไร ศึกษาให้ดีๆก่อน หากรู้ไม่จริง มันก็คือความว่างเปล่าของตัวคุณเอง…ถ้าคุณไม่เข้าใจอะไรคือ action และ อะไรคือผล re-action ไม่ว่าคุณจะเรียนอะไรมา มันคือ…ความว่างเปล่า..?โดยเฉพาะ สมองของคุณ….

  16. บุรุษ says:

    ถ้าจะวิพากษ์ศาสนาพุทธแล้วคิดได้แค่นี้ แสดงว่าสมองมีไว้ให้กะโหลกหุ้มจริงๆ นะครับ โชคดีนะครับที่ยังเขียนภาษามนุษย์ได้อยู่

Leave a reply to คนผ่านทางคนที่2 Cancel reply